วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ยำขนมจีนปลาทู




***

หิว หิว หิว


หิวตลอด กินได้ทั้งวัน กินอะไรดีหล่ะ กลางวันนี้ หาอะไรกิน
เล่นดีกว่า


เดี๋ยวขอเข้าไปค้นของในตู้เย็น แป๊ปนะคะ โอ้......ปลาทูนึ่ง ซื้อมาหลายวันละ วันนี้ถือโอกาสเคลียร์ละกัน  นึก นึก นึก ทำเมนูอะไรดี 


ปิ๊งงง .....
ยำขนมจีนปลาทูดีกว่า มีเครื่องปรุงทุกอย่างละ ขาดแต่ขนมจีนทำไงดี







หิวมาก ไม่รอช้าละค่ะ ไปเตรียมของกัน
ขอแว๊บไปตลาดใกล้บ้าน ซื้อขนมจีนก่อนค่ะ โชคดีตลาดใกล้นิดเดียว




ได้แล้วค่ะขนมจีน




นำปลาทูนึ่งไปทอด เห็นหน้าพี่ทูแล้วเหมือนพี่แกเครียดอะไรบางอย่าง 55




ส่วนผัก ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ
ถั่วฝักยาวซอย
ต้นหอมซอย
พริกแดงซอย








ขาดไม่ได้เลย น้ำปลาร้าต้มสุก ทำเองก็จัดเต็ม เข้มข้น ค่ะ
ถ้าไม่บอกนี่นึกว่าโอวันตินร้อนหรือเปล่า 55






มะนาว
น้ำตาลปี๊บ
น้ำปลา
พริกป่น

---------------------------

ของครบแล้ว
ลงมือกันเลย




เทน้ำปลาร้าต้มสุก ลงในภาชนะที่ใหญ่พอที่จะทำคลุกได้สะดวก หลังจากนั้นใส่น้ำตาลปี๊บลงไปคนให้ละลาย






เทพริกป่นลงไปเลยค่ะ







บีบมะนาวลงไป






เทผักที่เราเตรียมไว้ลงไป (พริก ต้นหอม ถั่วฝักยาว)
คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมรส ปรุงตามใจชอบค่ะ






ได้รสถูกใจแล้ว ใส่ขนมจีนลงไป คลุกเคล้ากับน้ำยำ






ใส่ปลาทู (แกะก้างให้เรียบร้อยก่อนนะคะ)






คลุกเคล้า คลุกเคล้า ชิมรสอีกรอบ โอ๊ยยยย แซบหลายค่ะ







ตักเสิร์ฟ พร้อมทานค่ะ


อยากบอกว่ามันอร่อยมากๆ รสชาติเผ็ดสะใจ ปลาร้าหอมสะกดจิต ความเปรี้ยวของมะนาวหน่อยๆ  ยังมีกลิ่นของปลาทู ความกรอบสดของถั่วฝักยาว อร่อยกว่าซื้อกินอีกค่ะ


ถ้าว่างๆ ลองทำกินกันดูนะคะ ทำไม่ยากเลย


- ทำเองอร่อยเอง -


ชรไปก่อนค่ะ บ๊าย บาย



*********







วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

กระดูกหมูทอดกระเทียมพริกไทยดำ



***


หิวกันหรือยังคะ  



เช้านี้ตื่นขึ้นมา ก็มีเมนูที่รออยู่แล้วตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็น พอดีว่าหมักหมูเอาไว้ค่ะ เช้านี้เลยต้องจัดการทอด กินกับสวยร้อนๆ 



เริ่มต้นวันใหม่ กินจนพุงป่อง oops.......




หมูทอดกระเทียมพริกไทยดำ







- ส่วนผสม มีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ -





ซี่โครงหมูหั่น





รากผักชี
กระเทียม
เม็ดผักชี
พริกไทยดำ
(เม็ดผักชี จะไม่ใส่ก็ได้นะคะ แต่โดยส่วนตัวแล้วชอบ มันหอมดีค่ะ)






น้ำปลา
ซีอิ้วขาว
ผงปรุงรสหมู
พริกไทยขาวป่น
น้ำตาล






นำรากผักชี กระเทียม เม็ดผักชี พริกไทยดำ ตำให้แหลก







ตำได้ที่แล้ว ให้นำไปเทใส่ซี่โครงหมู






ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว






น้ำปลา






น้ำตาล
พริกไทยขาวป่น
ผงปรุงรสหมู






คลุกเคล้าให้เครื่องสมุนไพรเข้ากับซี่โครงหมู
ในส่วนของการปรุงรส ชรใช้วิธีกะเอา แล้วก็ดมกลิ่นค่ะ 
กลิ่นหลัก ๆ ก็จะเป็นกลิ่นของรากผักชี พริกไทยดำ กระเทียม กลิ่นเค็มของเครื่องปรุง





ใส่กล่อง นำเข้าตู้เย็น ชรทิ้งไว้ 1 คืนค่ะ



เช้ามา ก็เอาออกมาทอด ได้อาหารมื้อเช้าแบบง่ายๆ




ได้เวลาทอดแล้ว เย้ๆ
เตรียมน้ำมันสำหรับทอดกันเลยค่ะ





ตั้งกะทะ ใช้ไฟร้อนปานกลาง




พอน้ำมันร้อนได้ที่ ใส่ซี่โครงหมูที่หมักไว้แล้ว ลงทอดได้เลยค่ะ






ชะแว๊ป แปร๊บ แปร๊บ ได้กินแล้ว ง่ายจริงๆ 



ไปกินกันค่ะ ข้าวสวยร้อนๆ รออยู่



มัวแต่โม้ เดี๋ยวหมูทอดจะหมดซะก่อน



ชรไปก่อนนะคะ บ๊าย บาย




*****
ทำเอง อร่อยเอง

*****








วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

กุ้งแม่น้ำย่าง + น้ำจิ้มซีฟู๊ด (สูตรพิเศษ)





***




วันนี้หลังจากเสร็จภาระกิจต่างๆ ไปแล้ว การไปตลาดก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ไม่เคยขาด 
ไปเดินดูกันค่ะ ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง โอ้...เดินไปสะดุด 
เจ้ากุ้งแม่น้ำตัวโต   ปิ้งงง... ขึ้นมาทันที




กุ้งแม่น้ำตัวโตๆ ย่าง กินกับน้ำจิ้มซีฟู๊ด รสจัดจ้าน คงอร่อยน่าดู
ว่าแล้วน้ำลายไหล








ไปเลือกกุ้ง กันดีกว่าค่ะ





เราเลือกไซส์ใหญ่ที่สุดมาเลยค่ะ (ตะกละ)




เราได้กุ้งกันแล้ว งั้น เราไปเตรียมในส่วนของน้ำจิ้ม กันดีกว่า 





มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ





กระเทียม
พริกหั่นหยาบ
รากผักชีหั่นหยาบ
ตะไคร้หั่นหยาบ
มะนาว
( รากผักชี และตะไคร้ ไม่ใส่ก็ไม่เป็นไรค่ะ )
สูตรนี้ เป็นสูตร ความชอบส่วนตัวค่ะ แต่ถ้าอยากลองทำดูก็ไม่ผิดนะคะ มันหอมไปอีกแบบค่ะ





น้ำปลา
น้ำตาลทราย





นำกระเทียม พริก ตำให้แตก






หลังจากนั้นใส่ รากผักชี ตะไคร้ ตำให้ละเอียด






ปรุงรส เติมน้ำปลา






เติมน้ำตาล





บีบมะนาวลงไป





เติมน้ำต้มสุกลงไปหน่อย เพื่อไม่ให้น้ำจิ้มแห้งเกินไป
หลังจากนั้นก็ชิม ปรุงรสตามใจชอบได้เลยค่ะ



เสร็จแล้วค่ะน้ำจิ้มซีฟู๊ด



ต่อไปเราไปเตรียม ย่างกุ้งกันค่ะ





ล้างกุ้งให้สะอาด




ผ่าหลัง เอาเส้นดำหลังกุ้ง และขี้บนหัวกุ้งออก ใช้มีดคมๆ ผ่ากลาง





เตาพร้อม กุ้งพร้อม นอนอาบแดดกันค่ะ





ย่างไม่นานค่ะ เพราะกลัวเนื้อจะไม่หวานและแข็งเกินไป



อะไรจะง่ายขนาดนี้
ทำเอง อร่อยเอง


ควันกำลังลอยขึ้นมานิดๆ พร้อมมันกุ้งหอม เยิ้มมมมม ตักเนื้อกุ้งขึ้นมา จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสแซบ 


ไม่ต้องการอะไรมากกว่านี้แล้วค่ะ
ขอไปเคลิ้มกับกุ้งแม่น้ำย่างก่อนนะคะ




ชรไปก่อนค่ะ บ๊าย บาย




********* 








วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ผัดฉ่าซีฟู๊ด




***



มีใครชอบทานซีฟู๊ดบ้างคะ พอพูดถึงซีฟู๊ด ก็จะต้องนึกถึงน้ำจิ้มซีฟู๊ด
ลอยขึ้นมา แต่วันนี้อยากจะทานอะไรที่ถึงใจมากว่านั้น เครื่องเทศ สมุนไพร อัดแน่น 



ไปดูสิ ในตู้เย็น เรามีเครื่องเทศ พอที่จะทำอะไรได้บ้าง




เย้ เย้ เจอแล้ว




งั้นเราไปทำ ผัดฉ่าซีฟู๊ด กันดีกว่าค่ะ 










มีเครื่องปรุงอะไรบ้างไปดูกันเลย





ซีฟู๊ด ใครชอบอะไรก็จัดไปเลยค่ะ





พริกไทยสด 
ใบโหระพา
ใบมะกรูด
พริกใหญ่หั่น
กระเทียม
พริกสด
(ถ้าจะใส่กระชายซอย ลงไปด้วยก็ไม่ผิดค่ะ ) 





ซอสหอยนางรม
ซีอิ๊วขาว
น้ำปลา
น้ำตาล
ผงปรุงรสไก่




น้ำมัน 
เกลือ



อุปกรณ์ครบ ลงมือกันเลยค่ะ







นำพริกสดและกระเทียม ใส่เครื่องปั่น หรือว่าจะตำก็ได้ค่ะ หอมกว่าด้วย 
แต่ว่าวันนี้ชรทำค่อนข้างเยอะ ตำไม่ไหว
 (จริงๆ แล้วขี้เกียจ เหอ เหอ)





ปื๊ดดด ปื๊ดดดด





รวดเร็ว ทันใจ ไม่ต้องปั่นละเอียดมากนะคะ






ตั้งกะทะ ใช้ไฟปานกลางถึงแรง กะทะเริ่มร้อน ให้ใ่ส่น้ำมันลงไป






น้ำมันร้อนแล้ว ใส่พริกกระเทียมที่ปั่นเอาไว้ลงไป ผัดไปจนกว่าจะมีกลิ่นฉุนขึ้นมากระแทกจมูก 555
นั่นหมายความว่าได้ที่ละ





ผัดพริกกระเทียมพอสุก หลังจากนั้นใส่บรรดาครอบครัวซีฟู๊ดลงไป ผัดคลุกเคล้าให้สุก





ใส่เครื่องเทศ สมุนไพรลงไป (ใบมะกรูดให้ฉีก เอาก้านทิ้ง ใช้แต่ใบ) 
ทำการปรุงรสตามใจชอบ เมนูนี้ก็ควรจะเผ็ดนำ ตามเค็ม หวานนิด





ก่อนยกลงใส่ใบโหระพา คลุกเคล้าให้เข้ากัน






ตักเสิร์ฟ + ข้าวสวยร้อนๆ 




อัดแน่นไปด้วยรสชาติที่ไม่ต้องพูดถึง และความใหญ่ของหอยนิวซีแลนด์ ความนุ่มของหอยเชลล์ ความเด้งของเนื้อกุ้ง





เมนูนี้ ก็เป็นอีกเมนูหนึ่ง ที่ทำได้ง่าย ๆ บางคนคิดว่า ผัดฉ่า ทำไม่เป็นหรอก ยากจะตาย  แต่จริงๆแล้วไม่ยากเลยใช่ไหมคะ หลังจากเห็นขั้นตอนแล้ว



ทำทานเอง ดีตรงที่ เราสามารถเลือกคุณภาพ
ของวัตถุดิบที่ใช้ แถมได้รสชาติที่เราชอบ



ทำเองอร่อยเอง



ไปค่ะ ทานด้วยกัน




กลิ่นมันลอย คลุ้ง เย้ายวน หอม ชวนรับประทานได้กลิ่นกันบ้างไหมคะ


ขอตัวไปจัดการ ผัดฉ่าซีฟู๊ด ก่อนนะคะ


วันนี้ชร ไปก่อนค่ะ  บ๊าย บาย




**********